ชวนคิดเรื่อง อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ในมุมมองของคน Gen-X
แต่ก่อน อินเทอร์เน็ตยังไม่เก่ง ความรู้ต่างๆส่วนใหญ่จะฝังอยู่ในสมองของคนทำงาน ยิ่งอายุมาก ทำงานหลายปี ความรู้ยิ่งสั่งสมไว้เยอะ เด็กๆทำงานไม่เป็นก็ต้องคอยเรียนรู้จากหัวหน้า เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ คนที่ทำงานมานานๆ (ผู้อาวุโส) จึงเป็นที่เคารพนับถือของคนรุ่นใหม่เพราะถือว่าเป็นคนมีประสบการณ์มากกว่า มีความรู้มากกว่า โดยเฉพาะการทำงานในองค์กร คนที่อยู่ในองค์กรมานานกว่าถึงได้รับการยกย่องเชิดชูจากบริษัทมากกว่าเด็กใหม่ๆ
เดี๋ยวนี้ ความรู้หาได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส เพียงกดแป้นพิมพ์หรือแตะหน้าจอสมาร์ทโฟนไม่กี่ที สิ่งที่ในอดีตไม่รู้ก็สามารถรู้ได้แค่อึดใจ จะเห็นได้ว่า คนสมัยนี้สามารถเรียนรู้ และเปลี่ยนสายงานได้ไม่ยาก ความรู้ต่างๆที่ในอดีตต้องใช้เวลาเรียนรู้จากประสบการณ์กันหลายๆปีเดี๋ยวนี้ถูกย่อเวลาให้สั้นลงเหลือไม่กี่ชั่วโมง ปัญหาต่างๆตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ ปัญหาในบ้านนอกบ้าน งานสารพัดช่าง ล้วนแก้ไขได้ด้วยการดูคลิปใน youtube ไม่กี่คลิป (ผมมั่นใจว่าทุกคนต้องเคยแก้ปัญหาอะไรสักอย่างในชีวิตประจำวันด้วยการหาใน youtube เหมือนกันแหละครับ)
แล้วคุณค่าของผู้อาวุโสอย่างเรา (Gen-X หรือ Baby boomer) อยู่ตรงไหน?? ผมคงไม่มีคำตอบให้ แต่อยากชวนคิดว่าโลกมันเปลียนไปมาก ผมที่ตามเทรนด์ต่างๆในสังคมและเทคโนโลยีอยู่ตลอดก็ยังเกิดอาการ “ล้าหลัง” ในบางเรื่องได้ เช่น หลายปีก่อนช่วงที่การเรียกรถ taxi ด้วยแอพยังเพิ่งเริ่มมีใหม่ๆ ผมไปดูงานต่างประเทศ น้องที่ไปด้วยกันเรียกรถผ่านแอพแบบคล่องมาก เขาทำจนเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ หรือการทานข้าวในร้านอาหารปัจจุบัน ก็จะมีคูปองลดราคาอยู่ในแอพต่างๆเต็มไปหมด กดโทรศัพท์ไม่กี่ทีก็เดินเข้าร้านได้ส่วนลด 5-10% สบายๆ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างง่ายๆในชีวิตจริงที่มันเกิดขึ้นใน gap ระหว่างคนแต่ละรุ่น แล้วในที่ทำงานล่ะ มันจะไม่มีโอกาสเกิดเหตุการณ์แบบนี้บ้างเลยเชียวหรือ แล้วตัวเราเอง ในฐานะที่เป็นคนที่อยู่ในองค์กรมานาน หรือ HR ที่ต้องดูแลบุคคลากรในองค์กรจะรับมือปัญหานี้ได้อย่างไร
โพสต์นี้ไม่มีคำตอบนะครับ ผมเพียงแค่ชวนคิด ชวนให้สมองทำงาน ในช่วงที่ทุกคนกำลังซึมๆหงอยๆกับเรื่องโควิดอยู่ในเวลานี้
image: unsplash